บทความ และข่าวสารดีๆจากเรา

ประสบการณ์งานขายทรัพมากกว่า10ปี ใช้เวลาขายทรัพย์รวดเร็ว สูงสุดภายใน 3 วัน

รีโนเวทคอนโดแตกร้าวหลังแผ่นดินไหว: ซ่อมรอยร้าวคอนโด ให้ปลอดภัย สวยเหมือนใหม่ และไม่กลับมาแตกร้าวซ้ำ

รีโนเวทคอนโดแตกร้าวหลังแผ่นดินไหว: วิธีซ่อมให้ปลอดภัยและสวยเหมือนใหม่ คอนโดแตกร้าวหลังแผ่นดินไหว ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม รอยร้าวเล็กอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ถ้าไม่ได้ซ่อมอย่างถูกวิธี การรีโนเวทคอนโดจึงไม่ใช่แค่การอุดรอยร้าวหรือทาสีใหม่ แต่คือการดูแลห้องของคุณให้กลับมาสวย เรียบร้อย และแข็งแรงเหมือนเดิม สิ่งที่เราให้ความสำคัญ 1. การดูแลห้องและเฟอร์นิเจอร์ คลุมเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นด้วยพลาสติกหรือผ้าใบ ใช้แผ่นรองพื้น ป้องกันรอยขีดข่วนบนไม้และกระเบื้อง ของใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับการดูแลอย่างดี ลูกค้าไม่ต้องกังวลว่าจะเสียหาย 2. งานซ่อมที่เนี๊ยบและเรียบร้อย ฉาบและเก็บงานให้ผนังเรียบเนียนเสมอ เก็บงานสีประณีต ไม่เลอะวงกบหรือเฟอร์นิเจอร์ ตรวจสอบทุกขั้นตอนก่อนส่งมอบ 3. เทคนิคป้องกันรอยร้าวกลับมาอีก ใช้ ตะแกรงไฟเบอร์ (Fiberglass Mesh) หรือ Wire Mesh เสริมบริเวณรอยร้าว วิธีนี้ช่วยให้ผนังมีความยืดหยุ่น ลดโอกาสที่รอยร้าวจะเกิดซ้ำ เพิ่มอายุการใช้งานให้นานกว่าการฉาบปูนหรือโป๊วแบบทั่วไป ขั้นตอนการทำงานกับทีมช่างของเรา ส่งรูป → ให้ทีมช่วยประเมินเบื้องต้น (ฟรี) นัดดูหน้างาน → แนะนำวิธีซ่อมและเสนอราคา เริ่มงาน → ดูแลห้องและเก็บงานอย่างเรียบร้อย ตรวจงานร่วมกัน → ส่งมอบห้องที่กลับมาสวยเหมือนใหม่ สรุป หากคุณเจอรอยร้าวในคอนโดหลังแผ่นดินไหว อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจลุกลามจนแก้ไขยากขึ้น ทีมของเราเชี่ยวชาญด้าน รีโนเวทคอนโดแตกร้าว งานสวย เนี๊ยบ และใส่ใจเหมือนดูแลบ้านของตัวเอง 📞 ติดต่อเพื่อปรึกษาฟรีK. Nissita 081-624-4782💬 LINE: @deepbasesagency DEEPBASES DEVELOPMENT AND DESIGN CO., LTD.บริษัท ดีพเบสซ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ ดีไซน์ จำกัด https://www.deepbasesagency.com/wp-content/uploads/2025/10/ซ่อมรอยร้าวคอนโด.mp4

อ่านเพิ่มเติม »
แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ไทย 2025

จับตาตลาดอสังหาฯ ในไทย: แนวโน้มปี 2025 หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว

📝 แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025: จับตาตลาดอสังหาฯ ไทยหลังแผ่นดินไหว แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 กำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วประเทศ หลังประเทศไทยต้องเผชิญเหตุการณ์หลายด้าน ทั้งการฟื้นตัวจากโควิด-19 การปรับตัวทางเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงไทย บทความนี้จะวิเคราะห์ภาพรวมและเจาะลึก แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 เพื่อให้คุณวางแผนการลงทุนได้อย่างมั่นใจ 🌟 ภาพรวมแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 ในไทย 📈 1. การฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ หลังโควิด-19 หนึ่งในแรงผลักสำคัญของ แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 คือการฟื้นตัวของกำลังซื้อ หลังการเปิดประเทศและฉีดวัคซีนครบ ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะกลุ่มคอนโดและบ้านเดี่ยวในเมืองใหญ่เริ่มคึกคักอีกครั้ง 🏡 2. บ้านเดี่ยวและชานเมืองยังมาแรง เทรนด์ Work from Home ส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ทำให้บ้านเดี่ยวในโซนชานเมือง เช่น รังสิต ลำลูกกา และบางนา ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของ แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 ที่น่าจับตา 🌆 3. คอนโดในเมืองยังคงมีดีมานด์ คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT โดยเฉพาะที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันยังคงได้รับความนิยม ทั้งกลุ่มวัยทำงานและผู้ลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญใน แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 ✅ ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 💸 อัตราดอกเบี้ยต่ำ การรักษาดอกเบี้ยต่ำช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะผู้ซื้อบ้านหลังแรกและนักลงทุนต่างชาติ เช่น กลุ่มชาวจีนและยุโรปที่กลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งในปี 2025 🏗️ โครงสร้างพื้นฐานและรถไฟฟ้าสายใหม่ แนวรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพูที่ใกล้เปิดให้บริการ ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นทำเลทอง และมีผลโดยตรงต่อ แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 🌍 นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมา การเปิดประเทศทำให้ตลาดปล่อยเช่าฟื้นตัว โดยเฉพาะในโซนกลางเมืองที่กลุ่มนักท่องเที่ยวและต่างชาติเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่อง ⚠️ ความกังวลด้านโครงสร้างหลังแผ่นดินไหว เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยของอาคาร ส่งผลให้โครงการที่มีโครงสร้างต้านทานแผ่นดินไหวกลายเป็นจุดขายใหม่ของปีนี้ 💡 เทคโนโลยีและความปลอดภัย: หัวใจของแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2025 บ้านและคอนโดเริ่มมี Smart Home และระบบ Home Automation ใช้ VR/AR พาชมโครงการออนไลน์ เพิ่มความสะดวกในการตัดสินใจ

อ่านเพิ่มเติม »
สัญญาเช่า

6 ข้อควรรู้ก่อนทำสัญญาเช่า: ป้องกันปัญหาทางกฎหมายก่อนเช่าทรัพย์สิน

6 ข้อต้องรู้ก่อนทำสัญญาเช่า ก่อนที่คุณจะเซ็นสัญญาเช่าบ้าน คอนโด หรืออสังหาฯ ต่าง ๆ เช็กให้ครบ! ป้องกันปัญหาทางกฎหมาย และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ✅ 1. ตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ให้เช่า ตรวจสอบว่าเจ้าของทรัพย์สินเป็นผู้มีสิทธิ์ให้เช่าจริง เช่น มีชื่อในโฉนด หรือมีหนังสือมอบอำนาจถูกต้อง ขอเอกสารประกอบ เช่น โฉนดที่ดิน สำเนาบัตรประชาชน หรือสัญญาซื้อขายเดิม ✅ 2. รายละเอียดในสัญญาเช่าต้องชัดเจน ระบุทรัพย์สินที่เช่าให้ชัดเจน เช่น ที่อยู่ ขนาด หรือเลขที่โฉนด กำหนดระยะเวลาเช่า วันเริ่มต้นและวันสิ้นสุด ระบุค่ามัดจำ ค่าเช่ารายเดือนหรือรายปี พร้อมเงื่อนไขการชำระเงิน ✅ 3. สิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย ระบุว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าบำรุง ค่าซ่อมแซม หรือค่าส่วนกลาง กำหนดเงื่อนไขในการปรับปรุงทรัพย์สิน หรือโอนสิทธิการเช่า เงื่อนไขการต่ออายุหรือบอกเลิกสัญญาอย่างเป็นธรรม ✅ 4. จดทะเบียนสัญญาเช่าระยะยาว หากเช่าเกิน 3 ปี ต้องจดทะเบียนสัญญาเช่าที่กรมที่ดิน หากไม่จด อาจไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายเกิน 3 ปี ✅ 5. ระวังข้อกำหนดไม่เป็นธรรม ระวังค่าปรับที่สูงเกินไป หรือการริบมัดจำโดยไม่เป็นธรรม หลีกเลี่ยงสัญญาที่ให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกฝ่ายเดียวง่ายเกินไป ✅ 6. เซ็นสัญญาให้ถูกต้องและเก็บสำเนาไว้ ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่าควรเซ็นชื่อทุกหน้า พร้อมพยานลงชื่อกำกับ เก็บสำเนาไว้ทั้งสองฝ่าย หากเป็นนิติบุคคลควรแนบตราประทับของบริษัท 📌 สรุป: การทำสัญญาเช่าที่ดี ต้องตรวจสอบให้รอบคอบทั้งข้อมูลเจ้าของ รายละเอียดในสัญญา และเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหาทั้งในปัจจุบันและอนาคต ———————- 🧡 deepbasesagency คัดบ้านให้คุณ เหมือนเลือกให้ครอบครัว Curated like home. 📋 ปรึกษาเราได้เลย ทีม deepbasesagency ยินดีดูแลคุณ 📞 ติดต่อ 𝑫𝒆𝒆𝒑𝒃𝒂𝒔𝒆𝒔 𝑨𝒈𝒆𝒏𝒄𝒚 (ดีพเบสซ เอเจนซี่) 📱 𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://lin.ee/SG37M5K 🔰

อ่านเพิ่มเติม »
เทคนิคการคัดกรองผู้เช่าเพื่อลดความเสี่ยงในการค้างค่าเช่า

เทคนิคการคัดกรองผู้เช่าเพื่อลดความเสี่ยงในการค้างค่าเช่า

เทคนิคการคัดกรองผู้เช่าเพื่อลดความเสี่ยงในการค้างค่าเช่า การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านหรือคอนโด ถือเป็นแหล่งรายได้ที่ดี แต่หนึ่งในความกังวลของผู้ให้เช่าคือ ปัญหาผู้เช่าค้างค่าเช่า การคัดกรองผู้เช่าที่ดีตั้งแต่ต้นจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้อย่างมาก บทความนี้จะแนะนำ เทคนิคการคัดกรองผู้เช่า เพื่อให้ได้ผู้เช่าที่น่าเชื่อถือและลดปัญหาการค้างค่าเช่าในระยะยาว ทำไมการคัดกรองผู้เช่าถึงสำคัญ? ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน: หากผู้เช่าค้างค่าเช่า อาจส่งผลต่อกระแสเงินสดของเจ้าของ ลดข้อพิพาท: การคัดกรองช่วยคัดเลือกผู้เช่าที่มีความรับผิดชอบ สร้างความมั่นใจ: การมีข้อมูลที่ครบถ้วนช่วยให้ผู้ให้เช่ารู้สึกปลอดภัย 1. เก็บข้อมูลเบื้องต้นของผู้เช่า 📑 1.1 เอกสารส่วนตัว บัตรประชาชน: ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล ตรงกับข้อมูลที่แจ้งหรือไม่ ทะเบียนบ้าน: เช็กภูมิลำเนาหรือที่อยู่ถาวร เอกสารประจำตัวคนต่างชาติ (ถ้ามี): เช่น พาสปอร์ตหรือใบอนุญาตทำงาน 💼 1.2 หลักฐานทางการเงิน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน: เพื่อยืนยันรายได้ หนังสือรับรองเงินเดือน: อาชีพมั่นคงหรือไม่ รายการเดินบัญชี (Bank Statement): ตรวจสอบยอดเงินเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ 💡 ตัวอย่าง: ผู้เช่าที่มีรายได้มากกว่าค่าเช่า 3 เท่า มีโอกาสชำระค่าเช่าได้ตรงเวลาสูง 2. ตรวจสอบประวัติการเช่าที่ผ่านมา 📝 2.1 ติดต่อเจ้าของที่พักเดิม สอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการจ่ายค่าเช่า ตรวจสอบว่ามีปัญหากับเพื่อนบ้านหรือไม่ เช็กข้อมูลการค้างค่าเช่าและปัญหาอื่น ๆ 📧 2.2 ตรวจสอบประวัติคดีความ (ถ้ามี) หากผู้เช่าเคยมีคดีเกี่ยวกับ การค้างค่าเช่า การหลอกลวง หรือปัญหาทางกฎหมาย ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ 3. สัมภาษณ์ผู้เช่าด้วยตัวเอง 💬 3.1 พูดคุยและทำความรู้จัก สอบถามเกี่ยวกับ เหตุผลในการย้ายเข้ามาอยู่  ถามถึงระยะเวลาที่ตั้งใจจะเช่าและแผนในอนาคต ประเมินทัศนคติและความจริงใจในการตอบคำถาม 📝 3.2 ประเมินพฤติกรรมจากการพูดคุย ผู้เช่าที่มีเจตนาบริสุทธิ์มักให้ข้อมูลตรงไปตรงมา หากเจอผู้เช่าที่เลี่ยงการตอบเกี่ยวกับรายได้หรือสถานะการทำงาน ควรพิจารณาให้ละเอียด 4. ทำสัญญาเช่าอย่างรัดกุม 📝 4.1 ระบุรายละเอียดการชำระค่าเช่า วันครบกำหนด: กำหนดวันชำระอย่างชัดเจน เช่น ทุกวันที่ 1 ของเดือน ค่าปรับกรณีล่าช้า: ระบุอัตราค่าปรับ เช่น 5%

อ่านเพิ่มเติม »
ปรับปรุงบ้านให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว | เคล็ดลับง่ายๆ

แนะนำวิธีปรับปรุงบ้านให้แข็งแรง รองรับแผ่นดินไหว ลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้ครอบครัว

🏡 การปรับปรุงบ้านเพื่อความปลอดภัยจากแผ่นดินไหว: เคล็ดลับและคำแนะนำ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในประเทศไทย หลายครอบครัวเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงและความปลอดภัยของบ้านพักอาศัย การ ปรับปรุงบ้านให้ต้านทานแรงแผ่นดินไหว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก เคล็ดลับการปรับปรุงบ้านเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ตั้งแต่โครงสร้างภายนอกจนถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ 🌟 ทำไมต้องปรับปรุงบ้านให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว? แผ่นดินไหวสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า การเตรียมความพร้อมของบ้านจึงช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมาก โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่โครงสร้างอาจไม่ได้ถูกออกแบบให้ต้านทานแรงสั่นสะเทือนตั้งแต่แรก 🛠️ เคล็ดลับการปรับปรุงบ้านให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว ✅ 1. เสริมโครงสร้างให้แข็งแรงขึ้น 🧱 โครงสร้างเสาและคาน ใช้วัสดุที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือน เช่น เหล็กเสริม (Rebar) หรือ คอนกรีตเสริมเหล็ก เสริมคานรับน้ำหนักด้วย เหล็กรูปพรรณ H-Beam หรือ I-Beam เพิ่ม Shear Wall (ผนังกำแพงรับแรง) ในจุดสำคัญ เช่น มุมอาคาร 🧰 ฐานรากและพื้นบ้าน ตรวจสอบความแข็งแรงของฐานราก หากพบรอยร้าวควรซ่อมแซมทันที ใช้ พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete Floor) เพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือน ✅ 2. ปรับปรุงผนัง หลังคา และ โครงสร้างให้ยืดหยุ่น 🧱 ผนังอิฐมวลเบา (AAC Block) มีน้ำหนักเบา ช่วยลดแรงกระทำต่อโครงสร้าง ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่าผนังอิฐแดง 🪟 หน้าต่างและประตู ใช้ กระจกนิรภัย (Tempered Glass) ที่ทนต่อแรงกระแทก ติดตั้งกรอบหน้าต่างที่ยืดหยุ่น เช่น อลูมิเนียมเสริมโครงเหล็ก 🪜 หลังคาเบาและยืดหยุ่น ใช้หลังคาเหล็กแผ่นรีดลอนเบา ลดน้ำหนักส่วนบนของอาคาร เสริม เหล็กค้ำยัน (Roof Brace) ป้องกันการพังทลาย 🌧️ รางน้ำและปล่องควัน ตรวจสอบการยึดให้แน่นหนา ป้องกันการหลุดร่วงเมื่อเกิดแรงสั่น ✅ 3. ยึดเฟอร์นิเจอร์ให้มั่นคง 🛋️ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ วางตู้และชั้นวางของติดผนัง ใช้ แถบยึดกันล้ม (Anti-Tip Bracket) หลีกเลี่ยงการวางของหนักในจุดที่สูง 🗄️ การยึดตู้และชั้นวาง

อ่านเพิ่มเติม »
จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เสริมโชคลาภ เพิ่มพลังบวกให้บ้านทุกมุม

จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย: เพิ่มพลังบวก เสริมโชคลาภและความสุขในทุกมุมบ้าน การจัดบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือฟังก์ชันใช้งานเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ “พลังงานชีวิต” หรือ “ชี่ (Qi)” ตามศาสตร์ ฮวงจุ้ย (Feng Shui) ซึ่งเป็นศาสตร์จีนโบราณที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมกับความเป็นอยู่ของคนในบ้าน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเรียนรู้แนวทาง จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะ แค่รู้หลัก จัดให้ถูกตำแหน่ง และเปิดรับพลังบวกได้ทันที   ฮวงจุ้ยคืออะไร? สำคัญกับบ้านอย่างไร? ฮวง = ลมจุ้ย = น้ำรวมกันหมายถึง พลังงานธรรมชาติที่ไหลเวียน หากบ้านของเราจัดวางให้พลังงานเหล่านี้ไหลเวียนได้ดี จะส่งผลดีต่อโชคลาภ สุขภาพ ความรัก และความสำเร็จของผู้อยู่อาศัย   หลักการจัดบ้านตามฮวงจุ้ยในแต่ละพื้นที่ 1. ประตูบ้าน – จุดรับพลังชี่ หลีกเลี่ยงการวางสิ่งกีดขวาง เช่น ถังขยะ ต้นไม้รก หรือของระเกะระกะ ประตูควรเปิดเข้า ไม่ใช่เปิดออก รักษาความสะอาดและความสว่างตลอดเวลา 💡 เคล็ดลับ: วางต้นไม้มงคล เช่น ไผ่กวนอิม หรือไม้มงคลหน้าประตูเพื่อเรียกทรัพย์ 2. ห้องนั่งเล่น – ศูนย์รวมพลังของบ้าน จัดเฟอร์นิเจอร์หลักให้หันหน้าเข้าประตู หลีกเลี่ยงการวางโซฟาใต้คาน ใช้โทนสีอบอุ่น เช่น ครีม น้ำตาล เทาอ่อน 🌿 เคล็ดลับ: แขวนภาพธรรมชาติ ภูเขา หรือดอกไม้ เสริมพลังสงบและโชคลาภ 3. ห้องนอน – เสริมสุขภาพ ความรัก และการพักผ่อน หัวเตียงควรชิดผนัง ไม่ควรอยู่ตรงกับหน้าต่าง เตียงไม่ควรตรงกับประตูห้องน้ำ หลีกเลี่ยงกระจกตรงปลายเตียง 💖 เคล็ดลับ: ใช้โทนสีชมพู ฟ้า หรือพีช เสริมพลังรักและการพักผ่อน 4. ห้องครัว – ธาตุไฟ พลังชีวิต ห้ามวางเตาแก๊สตรงข้ามอ่างล้างจาน ครัวควรโปร่ง โล่ง ไม่อับชื้น หลีกเลี่ยงการวางครัวกลางบ้านหรือใต้ห้องน้ำ 🔥

อ่านเพิ่มเติม »

5 จุดเช็กคอนโดก่อนซื้อ: เพื่อไม่ให้พลาดและเสียดายทีหลัง

✅ 5 จุดเช็กคอนโดก่อนซื้อ: เพื่อไม่ให้พลาดและเสียดายทีหลัง การซื้อคอนโดไม่ใช่แค่เรื่องของโลเคชัน หรือราคาผ่อนที่ไหวเท่านั้น แต่ยังต้องเช็กสภาพห้อง และองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ เพราะถ้าพลาดขึ้นมา การซ่อม/แก้ไขอาจยุ่งยากหรือมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกเพียบ บทความนี้จะช่วยคุณ รู้ทันก่อนเข้าเซ็นสัญญา กับ 5 จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อคอนโด เพื่อให้คุณได้ห้องที่ “ใช่” ไม่มีเซอร์ไพรส์ไม่พึงประสงค์ทีหลัง 1️⃣ โครงสร้างห้องและผนัง ✔️ สิ่งที่ต้องเช็ก: รอยร้าว: ผนัง เพดาน หรือขอบวงกบประตู-หน้าต่าง มีรอยร้าวหรือไม่ พื้น: พื้นกระเบื้อง ปูเรียบไหม? มีเสียงกลวงเวลายืนไหม? ฝ้าเพดาน: มีรอยน้ำซึมหรือแอ่นหรือไม่? (ระวังปัญหาหลังคารั่วห้องบน) 💡 เคล็ดลับ: ใช้ไฟฉายส่องผนัง-ฝ้า ช่วยให้เห็นรอยแตกหรือรอยน้ำชัดขึ้น 2️⃣ ระบบไฟฟ้าและปลั๊กไฟ ✔️ สิ่งที่ต้องเช็ก: ปลั๊กไฟอยู่ในจุดที่ใช้งานสะดวกหรือไม่? มีพอหรือเปล่า? เปิด-ปิดสวิตช์ไฟทุกจุด ทดสอบหลอดไฟ เช็กแผงเบรกเกอร์ไฟว่าใช้งานได้ดี มีการแยกโซนชัดเจนหรือไม่ 💡 เคล็ดลับ: พกที่ทดสอบปลั๊ก (plug tester) ไปเช็กไฟรั่วเบื้องต้นได้ง่าย ๆ 3️⃣ ระบบน้ำประปาและสุขภัณฑ์ ✔️ สิ่งที่ต้องเช็ก: เปิดก๊อกทุกจุด (อ่างล้างหน้า อ่างล้างจาน ฝักบัว โถสุขภัณฑ์) เพื่อดูแรงดันน้ำ สังเกตคราบน้ำ ใต้ซิงก์หรือหลังโถสุขภัณฑ์ (สัญญาณน้ำรั่ว) ระบบระบายน้ำชักโครก ไหลดีหรือมีปัญหา? 💡 เคล็ดลับ: ทดลองเปิดน้ำอ่างล้างหน้า/ล้างจานไว้ แล้วเดินดูว่าท่อน้ำด้านล่างมีน้ำซึมหรือไม่ 4️⃣ สภาพเฟอร์นิเจอร์และบิลต์อิน (ถ้ามี) ✔️ สิ่งที่ต้องเช็ก: บานพับ ตู้ ลิ้นชัก เปิดปิดลื่นไหม? มีรอยผุ ปลวก หรือสีหลุดหรือเปล่า พื้นที่ใช้สอยเพียงพอไหม? สัดส่วนเฟอร์นิเจอร์กับห้องสมดุลหรือไม่ ถ้าแถมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ – ต้องทดสอบการทำงานให้ครบ 💡 เคล็ดลับ: ถ่ายรูปทุกชิ้นก่อนเซ็นรับห้อง

อ่านเพิ่มเติม »